บทความของโมเดลนี้มีความนิยมกันมากช่วงปลายปี 63 รวมทั้งต่อจากนั้นก็กลายเป็นแค่กระแส ใครอยากทำอะไรก็ได้อิสระโดยไม่ได้อิงวิชาการที่ถูกต้อง กระทั่งปัจจุบันก็กลายเป็นศิลปะแห่งการขุดบ่อไปโดยสิ้นเชิง
เรา ขายที่ดินกระบี่ เจ้าของขายเอง มาว่ากันด้วยเรื่องของโมเดลนี้กันดีกว่า ว่ารายละเอียดจริงๆ นั้นมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนในทางปฏิบัติ บวกกับโคกหนองนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไรกันแน่ เพราะหลายๆ คนยังสับสนแล้วก็ทำผิดกันมั่วไปหมด
โคกหนองนาโมเดล หรือจะแค่ศิลปะของการขุดบ่อเลี้ยงปลา
โคกหนองนาโมเดล ในความเป็นจริงนั้น หมายความรูปแบบที่ถูกแยกออกมาจากส่วนหนึ่งในการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เฉพาะเรื่องโมเดลนี้ จะเน้นในเรื่องการจัดการน้ำเป็นหลัก
เท่ากับการสร้างโมเดลให้ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ จะทำอย่างไรให้พื้นที่เกษตรมีน้ำใช้ตลอดปี รวมไปถึงสามารถสร้างระบบเชิงนิเวศน์ให้มันเป็นไปในแบบธรรมชาติ มากที่สุด นี่หมายความวัตถุประสงค์หลัก
แนวคิดนี้ หากจำไม่ผิดล่ะก็ น่าจะถือกำเนิดขึ้นที่สถาบันเศรษฐกิจพอเพียงรวมถึงมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ซึ่งก็จะถือได้ว่าทางสถาบันฯ ได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ด้านการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ มาต่อยอดให้เกิดโมเดลนี้ขึ้น โดยนำแนวคิดมาใช้ ร่วมด้วยร่วมกับหลักการของภูมิปัญญาชาวบ้าน ผสมผสานปั้นแต่งขึ้นมาจนได้นิยามคำว่า "ภูมิสังคม" และเมื่อพูดถึงโคกหนองนาโมเดล ก็ต้องรู้จักคำว่า ภูมิสังคม ด้วย คำๆ นี้จึงถูกใช้เป็นนิยามเกี่ยวกับโมเดลนี้นับแต่นั้นมา
ข้อมูลการทำเกษตรทฤษฎีใหม่เชิงลึก ศึกษาจากที่นี่
ซึ่งก็หมายความว่าหากเอ่ยถึงคำว่า "โคกหนองนา" คำว่า "ภูมิสังคม" ก็จะตามมาติดๆ เพราะจะแยกกันไม่ออก โดยคำว่า ภูมิสังคม เป็นคำใหม่ที่มีที่มาจาก
- "ภูมิ" จะเป็นดังเช่น สภาพทางกายภาพทั่วไป เช่น สภาพดิน นํ้า ลม ไฟ(แสงแดด) หรือสภาพแวดล้อมทั่วไปในเขตนั้น
- "สังคม" หรือก็เช่นนั้นแล้วคือธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมในท้องถิ่น ความเชื่อ วิถีชีวิตในชุมชนนั้น
เมื่อรวมกันแล้วก็จะมีหมายความว่า การดำเนินการทำโคกหนองนาโมเดล จะต้องคำนึงถึงเรื่องของสภาพแวดล้อมที่อยู่ ทั้งเรื่อง ดิน น้ำ ลม ไฟ(แสงแดด) และไม่ไปขัดกับวิถีชีวิต ธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมหรือความเชื่อของคนในท้องถิ่นนั้นด้วย ตัวอย่างเช่น
- อยู่ดีๆ จะไปขุดบ่อลึก 10-20 เมตรโดยที่รอบข้างเป็นท้องนามีบ่อลึกเพียง 2-3 เมตร ทำแบบนี้ก็จะไปเบียดเบียนท้องถิ่น เพราะน้ำโดยรอบจะไหลเข้าบ่อตัวเองทำให้บ่อรอบข้างไม่มีน้ำ หรือ
- ขุดบ่อลึกถึงชั้นน้ำบาดาลจนทำให้มีการปนเปื้อนของระดับน้ำใต้ดิน ในขณะที่ในท้องถิ่นนั้นก็ต้องใช้น้ำบาดาลอุปโภคบริโภค
การกระทำต่างๆ เหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นการทำโคกหนองนาโมเดล เพราะการทำโคกหนองนาโมเดลที่ถูกต้องตามหลักการนั้น จะต้องให้ความสำคัญกับสังคมเป็นหลัก มากกว่าภูมิหรือพื้นที่ นั่นก็จะเป็นดังเช่น การจะออกแบบโคกหนองนาโมเดลขึ้นที่ใดที่หนึ่งซักโครงการนึง จะต้องให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของผู้ใช้พื้นที่ ผู้คนรอบด้าน ร่วมด้วยแม้จะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ก็ต้องมีการออกแบบที่ต่างกันออกไป ทำให้โมเดลนี้จะแตกต่างกันไปตามลักษณะที่จำเป็นต่อการใช้งาน
โคกหนองนาโมเดล ใครได้ใครเสียประโยชน์
ร่วมด้วยแน่นอนว่าเมื่อฟังแค่นี้ หลายคนก็ทุ่มเงินทองไปจัดการกับศิลปะบนที่ดินของตัวเอง ทำการขุดบ่อเลี้ยงปลาซะใหญ่โตจนมองเป็นลานจอด UFO ก็ไม่ปาน รวมถึงในปัจจุบัน หากเอ่ยถึงคำว่า โคกหนองนา ร้อยทั้งร้อยจะนึกถึงภาพลานจอด UFO บนที่ดิน **(ลานจอด UFO ที่เอ่ยถึงจะเป็นดังเช่นการออกแบบสระเก็บน้ำให้เชื่อมต่อกันอย่างเป็นศิลปะ) สวยแต่รูป จูบบ่หอม ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ที่ดิน 1 ไร่ขุดบ่อลุก 10 เมตรใช้พื้นที่เกือบ 70-80% ที่เหลือก็แค่โคกกับคันกั้นดินไว้ปลูกผักนิดหน่อย แล้วจะทำไปเพื่ออะไร???
โคกหนองนาโมเดล วัตถุประสงค์ที่แท้จริงมีไว้เพื่ออะไร
วัตถุประสงค์หลักของโคกหนองนาโมเดลนั้น ก็คือการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ เราจะทำอย่างไรให้มีน้ำใช้สำหรับการทำเกษตรได้อย่างพอเพียง รวมไปถึงด้วยการจัดการที่ชาญฉลาด จะสามารถลดการใช้แรงงานบวกกับเงินทุน รวมไปถึงสามารถสร้างระบบนิเวศน์ให้แก่พื้นที่ได้เกือบจะสมบูรณ์ ซึ่งก็จะนับได้ว่าใช้แรงงานสำหรับการจัดการจริงๆ นั้นน้อยมากหรือแทบไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ หากมีการจัดการที่ชาญฉลาดมากพอ
ยกตัวอย่างข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ มีการเจาะน้ำบาดาลมาใช้เป็นแหล่งน้ำหลัก เมื่อมีแหล่งน้ำแล้วแต่ยังต้องขุดบ่อเก็บน้ำเพิ่มเข้ามาอีก หรือบางพื้นที่ ขุดบ่อ ทำโคก ทำนา ก็เรียกว่าโคกหนองนาแล้ว ซึ่งก็จะนับได้ว่าในความเป็นจริงไม่ถูกต้อง
เพราะการกระทำแบบนั้น (ขุดบ่อน้ำตามดีไซน์สวยๆ แล้วถมที่เป็นโคกจนสูงท่วมหลังคาข้านข้างเคียง เว้นพื้นที่ไว้ทำนานิดหน่อย เป็นเพียงแค่การขุดสระเก็บน้ำไว้ใช้เฉยๆ ทำไมถึงบอกแบบนี้ จากรายละเอียดที่เปิดเผยออกมานั้น มีคำถามมากมายเกิดขึ้น
ข้อผิดพลาดที่โคกหนองนาโมเดล เป็นได้แค่ศิลปะของการขุดบ่อ นั่นก็เพราะว่าสาเหตุมาจากเรื่องดังนี้
- ขุดบ่อเหมือนลานจอด UFO แต่ถามว่า จะทำอย่างไรเมื่อพืชผักต้องการน้ำ ถ้าบอกว่า ก็ต่อท่อต่อสายยางนำน้ำขึ้นมารดสิ นี่ก็ผิดแล้ว
- ขุดบ่อลึก 10-20 เมตร เพียงเพราะอยากมีโคกสูงๆ ไว้กั้นน้ำท่วม นี่ก็ผิดแล้ว
- มีโคก มีหนองน้ำหรือสระเก็บน้ำ มีพื้นที่ทำนา ก็ใชได้แล้ว ความคิดนี้ก็ผิดเหมือนกัน
- มีสระน้ำ แต่ไม่นำน้ำในสระมาใช้กับแปลงเกษตร หรือนำมาใช้ แต่ต้องปั๊มเติมหรือสูบขึ้นมาจากบ่อบาดาลอีกที แล้วจะมีบ่อมีสระไปเพื่ออะไร
- มีสระน้ำ แต่ต้นไม้ แปลงเกษตร ที่นา ยังต้องใช้น้ำจากบ่อบาดาลหรือแหล่งน้ำอื่น นี่ก็ไม่ใช่โคกหนองนาที่แท้จริง
บลาๆๆ อีกทั้งการติดตั้งสปริงเกอร์ ปั๊มน้ำ สายยาง ท่อประปา มากมายเต็มร่องสวนบวกกับพื้นที่ต่างๆ ฯลฯ รวมๆ ที่ใช้เพียงวัตถุประสงค์เช่นนั้นแล้วคือการรดน้ำต้นไม้ ถึงกับต้องลงทุนเป็นแสน
โคกหนองนาที่ในหลวง ร.9 ท่านประทานแนวคิดมาให้ เป็นการจัดการน้ำอย่างชาญฉลาดที่แฝงอยู่ในโมเดลนี้ นั่นคือการลดต้นทุน ลดเครื่องมือรวมถึงแรงงาน รวมไปถึงทำให้ระบบมันเป็นไปตามธรรมชาติมากที่สุด
แล้วจะทำอย่างไร โคกหนองนาโมเดลถึงจะถูกต้องตามหลักการ ไม่โดนหลอกมโนเอาได้ว่า แค่การขุดบ่อเลี้ยงปลา หาน้ำมาได้ แล้วเอาดินไปถมโคกสูงๆ รวมทั้งมีพื้นที่ทำนาก็เป็นโคกหนองนาแล้ว มาดูที่องค์ประกอบ แล้วย่อยให้ได้สาระประโยชน์
โคกหนองนาโมเดล มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
อย่างที่บอกเอาไว้ในเรื่องราว โคกหนองนาโมเดล เช่นนั้นแล้วคือโมเดลในเรื่องของการแก้ไขปัญหาบวกกับจัดการน้ำอย่างชาญฉลาด โมเดลนี้มีองค์ประกอบหลักอยู่ 3 อย่างคือ
- โคก หรือพื้นที่สูง
- หนอง เช่นนั้นแล้วคือ หนองน้ำหรือแหล่งน้ำ
- นา คือพื้นที่ลุ่ม ไว้ทำนา หรือแปลงเกษตรอื่นที่ไม่จำเป็นต้องเป็นนาเท่านั้น
แค่มีองค์ประกอบทั้ง 3 อย่างครบถ้วนก็ยังไม่ถือว่าเป็นโคกหนองนาโมเดลที่แท้จริง แล้วก็อย่าให้ใครเขาหลอกเอาได้ เพราะในสิ่งที่เห็นว่าง่ายนั้น มีความยากแฝงอยู่ อย่าให้ใครหลอกว่าเอาได้ ว่ามีเงินอย่างเดียวทำไม่ได้
โคก หรือพื้นที่สูง สำคัญกับโคกหนองนาโมเดลอย่างไร
ในโมเดลนี้โคกกับหนองจะอยู่คู่กัน เมื่อใดก็ตามที่มีการขุดหนองน้ำ เมื่อนั้นจะได้โคก ยกเว้นจะขายดินออกไป ดังนั้นดินที่ขุดเอาไว้ ท่านว่าให้แยกหน้าดินชั้นบนเก็บไว้ก่อน(ประมาณ 1 เมตร) แล้วใช้ดินชั้นถัดไปถมทำเป็นโคก ส่วนนี้อาจทำไว้เป็นพื้นที่อาศัย หรือหากเป็นที่แห้งแล้งหาน้ำยาก แล้วทำการเจาะบาดาล ส่วนนี้ควรจะเป็นจุดตั้งต้นของตาน้ำ อาจขุดสระพักน้ำแห่งนึงไว้ด้วย
หนองน้ำ ที่เป็นโคกหนองนาโมเดลของแท้
เมื่อขุดแหล่งเก็บน้ำ สิ่งสำคัญของโคกหนองนาโมเดลเท่ากับ ต้องไม่ขุดให้เป็น 4 เหลี่ยม แต่พยายามเลียนแบบธรรมชาติ ให้มีส่วนเว้าส่วนโค้ง พื้นที่ตื้น ลึก ไม่เท่ากัน เพื่อให้น้ำได้รับแสงแดดที่เพียงพอ รับกระแสลมเพื่อให้มีการเคลื่อนไหว ประกอบกับที่สำคัญ หากหนองน้ำอยู่บนโคกจะดีมาก แต่หากไม่ได้ก็ให้ต่ำกว่าเล็กน่อย เพื่อกระจายน้ำไปยังส่วนอื่นๆ ให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ
แต่การจัดการเรื่องน้ำนี้ เป็นศาสตร์ที่ต้องใช้ความรู้ ทำอย่างไรให้มีน้ำใช้ได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการ ต้องเรียนรู้วิธีคำนวณปริมาณน้ำที่มี หรือให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป๊ะเวอร์ เพียงแต่สามารถผ่านพ้นช่วงแห้งแล้งไปได้โดยไม่ลำบากก็ถือว่าทำได้ผลดีแล้ว ดังนั้นหากจำเป็นต้องขุดกักเก็บน้ำรวมไปถึงคำนวณแล้วว่ามีน้ำจำกัด ก็ให้ลดพื้นที่เพาะปลูกแล้วก็ทำเกษตรที่ต้องการน้ำลง แล้วเปลี่ยนไปทำเกษตรหรือกิจกรรมอย่างอื่นที่ใช้น้ำน้อย ไม่จำเป็นต้องให้พื้นที่ทั้งแปลงได้รับน้ำเท่าๆ กัน ไม่จำเป็นเลย
หากหาแหล่งน้ำไม่ได้เพราะเป็นพื้นที่สูงและแห้งแล้งมาก โดยปกตินิยมเจาะบ่อบาดาล หากมั่นใจว่ามีน้ำใช้ตลอดปี ไม่จำเป็นต้องมีบ่อหรือถังเก็บน้ำ ยกเว้นจะนำน้ำมาใช้ประโยชน์อย่างอื่น ให้ใช้ตาน้ำจากบ่อบาดาลเป็นแหล่งน้ำหลัก เปิดปิดเป็นเวลา เพื่อกระจายน้ำไปยังส่วนต่างๆ ของพื้นที่แปลงเกษตร ไม่จำเป็นต้องขุดสระใหญ่โตเพื่อเก็บน้ำ แต่ไม่สามารถนำน้ำในสระมาใช้ประโยชน์ได้ แล้วอ้างว่าเอาไว้เลี้ยงปลา หากต้องการเลี้ยงปลา แนะนำให้ขุดสระอีกแห่งในพื้นที่ลุ่มที่สามารถรับน้ำได้ดีกว่า เมื่อกระจายน้ำให้พื้นที่อื่นแล้วน้ำจะไหลไปรวมกันในสระเลี้ยงปลา ทำแบบนี้จะง่ายในการจัดการกว่า โดยไม่เปลืองต้นทุนหมายรวมไปถึงเครื่องมือจัดการ
ในการลงทุนลักษณะที่เราคุ้นชินกันนั้น มีต้นทุนหลายแสนบาทถึงหลักล้านบาท เจ้าไหนมีทุนหนาก็ทำได้ เจ้าไหนไม่มีทุนก็ต้องทนใช้ชีวิตกันต่อไป แบบนี้ถือว่าอาจเป็นการเปรียบเทียบเกินไป เอาเป็นว่า ให้เราทำเท่าที่เราไหวดีที่สุด เพราะการจัดการกับแหล่งน้ำ ไม่ต้องใช้ทุนเยอะก็ทำได้มีประสิทธิภาพเหมือนกัน
โคกหนองนาโมเดล จึงเป็นโมเดลในการจัดการเรื่องน้ำที่ชาญฉลาด
ความลับของหนองน้ำ ในโคกหนองนาโมเดล
การทำโคกหนองนาโมเดล นั้นมีวัตถุประสงค์หลักเช่นนั้นแล้วคือการเก็บน้ำไว้ให้มีใช้ยามจำเป็น แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถนำน้ำที่เก็บเอาไว้มาใช้ยามปกติได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น
- การขุดหลุมขนมครก การขุดหลุมขนมครกตามจุดสำคัญบนพื้นที่แปลงเกษตร บวกกับหลุมขนมครกเหล่านี้ แต่ละหลุมก็มีจุดประสงค์เพื่อเก็บน้ำ ลึกบ้างตื้นบ้าง ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ รวมถึงแต่ละหลุมก็จะเชื่อมต่อกันด้วยคลองไส้ไก่
- การขุดคลองไส้ไก่ ก็หมายความการขุดคูร่องน้ำให้มีการคดเคี้ยวไปตามพื้นที่ มีทั้งตื้นทั้งลึก เพื่อทำให้น้ำกระจายได้ทั่วพื้นที่เกษตร
คลองไส้ไก่ นี้เอง คือหัวใจหลักของโคกหนองนาโมเดล เพราะจะทำให้ดินได้รับน้ำอย่างเพียงพอ การที่มีคูคลองที่สามารถกระจายน้ำไปตามพื้นที่แปลงเกษตรได้อย่างทั่วถึง จึงไม่จำเป็นต้องมี สปริงเกอร์ ปั๊มน้ำ หรือท่อส่งน้ำใดๆ ให้วุ่นวายเปลืองงบประมาณแล้วก็ต้นทุน
ส่วนพื้นที่ไหนไม่ได้ทำเกษตรหรือไม่ได้ต้องการน้ำ ก็ไม่จำเป็นต้องขุดคลองไส้ไก่หรือมีหลุมขนมครกเพื่อเก็บน้ำในบริเวณนั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า เราไม่จำเป็นต้องขุดสระให้ใหญ่โตหรือลึกมากจนกินพื้นที่เกือบ 80% เพราะเราไม่ได้ทำเกษตรเต็มทั้งบริเวณ หรือแม้จะทำเต็มพื้นที่ แต่การขุดสระเหมือนลานจอด UFO ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร หากการนำน้ำที่มีขึ้นมาใช้ ยังต้องพึ่งพาเครื่องมือประกอบกับต้องใช้ทุนจำนวนมากอยู่
คลองไส้ไก่ มีข้อดีรวมทั้งประโยชน์มากมาย
คลองหรือร่องน้ำที่ขุดไว้เชื่อมโยงแต่ละหลุมนั้น มีจุดประสงค์เพื่อกระจายน้ำให้แก่ดินตามจุดต่างๆ รวมทั้งการคดเคี้ยวเลี้ยวงอนี่เอง จึงเป็นที่มาของชื่อ คลองไส้ไก่
สิ่งที่สำคัญ เมื่อทำให้ระบบนิเวศน์ของโคกหนองเกือบสมบูรณ์แบบแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดน้ำระบายจากหนองอยู่ตลอดเวลา ทำเพียงวันละครั้ง หรือสองสามวันครั้ง หรืออาทิตย์ละครั้งนึงก็ยังได้ เพราะดินยังคงอุ้มน้ำได้ดีอยู่แล้ว
ทำไมถึงต้องมีการขุดคลองไส้ไก่ให้คดเคี้ยว?
นั่นก็เพราะว่า เมื่อน้ำไปถึงที่ไหน จะทำให้ดินชุ่มชื้นที่นั่น บวกกับการคดเคี้ยวของคลองจะทำให้กระแสน้ำไม่ไหลแรงเกินไป ทำให้ดินรับน้ำได้อย่างเต็มที่ พืชผักก็งอกงาม
ส่วนในฤดูน้ำหลาก จะต้องสังเกตุว่าบริเวณไหนมีการไหลของน้ำในปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณคลองไส้ไก่ หรือบริเวณที่น้ำไหลเข้าหนอง ก็จำเป็นต้องทำฝายทดน้ำเพิ่มเติม นั่นก็เพื่อกักหรือชะลอน้ำเอาไว้ หากน้ำหลากก็สามารถชะลอน้ำได้ หากในฤดูแล้งก็จะกลายเป็นที่กักเก็บน้ำไปในตัว
บวกกับทั้งหมดนี้ หากมีการถ่ายเทน้ำจากหนองที่มี และบริหารจัดการอย่างชาญฉลาด ก็แทบไม่ต้องมีปั๊มน้ำหลายตัว ไม่ต้องต่อท่อประปาติดสปริงเกอร์ให้เต็มสวน หรือแม้แต่มีทั้งบ่อใหญ่ มีทั้งแท๊งค์น้ำ ที่จะต้องเก็บน้ำเอาไว้ใช้เลยด้วยซ้ำ
นา มีประโยชน์อย่างไรกับโคกหนองนาโมเดล
พื้นที่นาหรือพื้นที่ลุ่ม จะกินบริเวณ 30% ของพื้นที่ทั้งหมด ในบริเวณนี้หากมีการทำนา แนะนำให้ปลูกข้าวอินทรีย์พื้นบ้าน ร่วมด้วยในบริเวณพื้นที่นานี้ ก็แนะนำให้ทำคันนา ให้มีความสูงรวมถึงกว้างมากพอที่จะใช้เป็นที่รองรับน้ำในฤดูน้ำหลากด้วย ส่วนคันนาอาจใช้เป็นพื้นที่สำหรับปลูกผลไม้หรือไม้ยืนต้น แนะนำวิธีการทำเกษตรบนคันดินแบบ hugelkultur นั่นถือได้ว่าจะมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการทำคันนา
ส่วนของนานี้ จะรวมไปถึงพื้นที่แปลงเกษตรในที่ราบลุ่มทั้งหมด รวมถึงควรเน้นการปลูกพืชที่สามารถทนน้ำท่วมได้พอสมควร สำหรับพันธุ์พืชที่ทนแล้ง อาจเลือกปลูกในบริเวณที่น้ำไปไม่ถึง แล้วก็ไม่จำเป็นต้องกระจายน้ำไปให้พื้นที่ทั้งหมด หากคนอ่านสามารถกำหนดจุดพื้นที่สำหรับความต้องการน้ำ เราก็สามารถลดปริมาณน้ำลงร่วมด้วยลดขนาดของบ่อเก็บน้ำหรือหนองน้ำนั้นได้ ทำให้มีพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้อีกมากพอ ที่สำคัญ ไม่เปลืองงบประมาณในการขุดสระด้วย
ทั้งหมดนี้หากทำให้เป็นระบบร่วมด้วยมีการจัดการบริหารน้ำได้ดีแล้ว ภายใน 1-2 ปีก็สามารถเห็นระบบนิเวศน์ที่เกือบจะสมบูรณ์ พร้อมกับการง่ายต่อการจัดการ เราไม่ต้องเปลืองแรง หรือลงทุนไปกับอุปกรณ์อะไรมากมายเพื่อขุดหนองทำโคกให้สวยหรูร่วมกับใหญ่โตเหมือนคนมีเงินถุงเงินถัง ประสิทธิภาพสวนโคกหนองนาของเราก็ใช้งานได้ดีกว่ามากมาย สิ่งสำคัญที่สุดหมายความ เอาแค่ตัวเองไหว เพราะท้ายที่สุด ธรรมชาติก็จะทวงคืนกลับไปทุกสิ่งอย่าง
ติดตามสาระความรู้และเนื้อหาทันเหตุการณ์ได้จาก กระดานข่าวสาร ขายที่ดินกระบี่ เจ้าของขายเอง
อ้างอิงเนื้อหาที่เกี่ยวโยงล่าสุดโดยเรียบเรียงจาก เคล็ดลับความสวยสำหรับผู้หญิง