สร้างบ้านด้วยเงินสด ไม่ง่าย

คิดซักนิดก่อนที่จะใช้ เงินสดสร้างบ้าน หากใครต่อใครบอกมาว่า กำเงินไว้สร้างบ้าน อยากได้อะไรก็ได้ ง่ายดายสุดๆ แค่ตั้งงบ เลือกแบบ หาผู้รับเหมา เดี๋ยวก็ได้บ้าน แต่เรื่องจริงๆ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น…

ถ่ายทอดจากประสบการณ์ของการกำเงินสดไว้ก้อนนึง เงินสดที่หามาได้อย่างยากเย็น แต่กลับเหมือนโดนปล้นเอาไปง่ายๆ ให้กับผู้รับเหมาหมาๆ คนนึง ตอนแรกเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องรีวิวบ้านสวยๆ เหมือนชาวบ้านเค้า แต่จากต้นปี 59 เข้าปี 60 ผ่านไป 8 เดือน หลังคาบ้านยังเห็นไม่ครบเลย ก็เลยอยากแชร์เรื่องราวมาให้เป็นบทเรียนในการสร้างบ้านด้วยเงินสด ในคราวนี้

รู้หรือไม่ว่า สร้างบ้านด้วยเงินสด ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดเลย เพราะคุณจะต้องเจอกับอุปสรรคนานาประการหลายอย่าง ไม่หมูไม่ง่ายเหมือนกับการเดินถือเงินไปซื้อจัดสรรซักหลังนึงแน่นอน เพราะการสร้างบ้าน มันยังไม่มีบ้าน ไม่มีอะไรเลย มีแต่ที่ดิน แต่การไปซื้อบ้านจัดสรร ยังมีบ้านให้เห็น เพียงแต่อาจไม่ถูกใจเราไปทั้งหมด บางคนบอกจัดสรรบางแห่งก็ไม่ได้เห็นบ้านก่อน กรณีนี้ก็ต่างออกไป แต่อย่างน้อย ยังคงมีคนรู้งานที่จะคอยมาช่วยเราบ้าง ไม่เหมือนการเริ่มสร้างบ้านด้วยเงินสดแบบนี้ เราต้องจัดการเองหมด หรือไม่ก็จ้างผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งก็ทำให้งบบานปลาย และมีเรื่องต้องระวังอีกมากมาย

สร้างบ้านด้วยเงินสด ไม่ง่ายอย่างที่คิด

ประการแรก แบบบ้าน ทั้งภายนอก ภายใน ต้องสรุปให้จบเสร็จไปเลย ช้าๆ ไม่ต้องรีบ พยายามขอ 3D เค้ามาให้ละเอียดที่สุด ถ้าจำเป็นต้องจ่ายค่าเขียนแบบ ก็ต้องยอม เพราะหากสรุปไม่จบ เราจะเจอกับการแก้หน้างานเยอะมาก ถ้าผู้รับเหมาหัวหมา เอ้ย หัวหมอ มันจะให้รีบสรุป ให้เซ็นต์ๆ ไปก่อน แล้วจะบอกว่า “เดี๋ยวมาแก้เอาหน้างานได้” อย่าไปหลงเชื่อ พวกนี้ขี้โม้ทั้งนั้น การรีบสรุปจบ แล้วไปแก้เอาหน้างาน เจ้าของบ้านพังมาหลายคนแล้ว เพราะการแก้หน้างาน ก็คือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่แทบไม่ต่างออกไปจากการออกแบบเลย ข้อสำคัญ หากเป็นการเปลี่ยนแปลงที่นอกเหนือจากแบบ เช่น เพิ่มจำนวนหน้าต่างให้มากขึ้น หรือเพิ่มตรงนั้นตรงนี้ ที่มันไม่เคยมีอยู่ในแบบแต่แรก ผู้รับเหมาจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มในทันที ต้องตกลงคุยกัน ยืนยันกันเป็นเอกสารไปเลยยิ่งดี ว่าการแก้ไขแต่ละครั้งแบบไหนเป็นรายจ่ายเพิ่ม แบบไหนไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ผมเคยเจอกรณีที่สร้างบ้านอยากโชว์คาน (ย้ำว่าต้องการโชว์คานสไตล์ Loft) ก็คุยไว้แต่แรกดิบดี ผู้รับเหมาหัวหมารับปาก แต่พอทำเข้าจริง คานไม่สวย หินโผล่ ลวดโผล่ รอยเจาะตะปูเพียบ ปูนกระเทาะ จะขอให้เค้าแต่งเพิ่มให้สวยๆ หน่อย เจียรอยให้นิดๆ ลงยาให้หน่อย รอยแตกรอยเว้าแต่งให้หน่อย เพราะเป็นความผิดของเค้า แต่เค้าดันคิดราคาค่าแต่งคานเพิ่ม ไม่ใช่น้อยๆ คานประมาณ 3-4 แท่ง แท่งละ 2 เมตร เก็บค่าแต่งเกือบ 2 หมื่น ซะงั้น

ประการที่สอง ต้อง หาผู้รับเหมา ควรจะเห็นผลงานจริงซึ่งไม่ใช่เพียงแค่รูปถ่าย แม้จะมีผลงานจริงแต่ต้องให้ชัวร์เลยว่า ผู้รับเหมาคนนั้นคนนี้ได้สร้างไปจริง เพราะบางรายอาจลักไก่ เอาของคนอื่นมาโมเมว่าเป็นผลงานของตัวเอง ขี้คุย โม้โอ้อวดแต่เรื่องดีๆ เก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ทำได้หมด ไม่มีปัญหา พอทำเข้าจริงกลายเป็นไร้คุณภาพ แล้วมาบอกว่าฝีมือไม่ถึง ต้องเพิ่มเงินถึงจะทำได้ (เรียกว่าจ่ายเงินซื้อฝีมือ เก่งขึ้นมาได้ทันทีทันใด) หนทางที่ดีที่สุดคือ ขอดูผลงานจริงของเค้า เมื่อรู้ว่าผลงานเค้าอยู่ไหน ให้คุยกับเจ้าของบ้านที่เค้าได้ฝากผลงานไว้ไปเลย ว่าผู้รับเหมาคนนั้นคนนี้ได้ทำจริงหรือเปล่า ทั้งหมดก็เพื่อความชัวร์ ถ้าไม่มีเวลาหรือไม่สะดวก ควรเลือกบริษัทที่ได้มาตรฐาน ยอมจ่ายแพงหน่อย ตกลงกันให้ชัวร์ เพราะผู้รับเหมาที่ดี จะไม่รีบเร่งให้เราเซ็นต์สัญญาแน่นอน เค้าจะทำงานในส่วนของเค้าจนกว่าเราจะไม่เปลี่ยนใจแล้วเท่านั้น ถึงจะเข้าเรื่องสัญญากัน

ประการที่สาม บริษัทรับสร้างบ้านขี้โกง มั่วนิ่มก็มีเยอะแยะ Profile ดี สวย มีผลงานจับต้องได้ แต่ประวัติยาวเหยียด แถมยังเป็นประวัติเสียอีกด้วยก็ควรอยู่ห่างๆ ไว้ก่อน บางรายมีบริษัทเป็นรูปร่างจริง แต่อาจเป็นเจ้าของคนเดียว มีพนักงานไม่กี่คน หรือแทบไม่มีเลย ที่เหลือก็ไปจ้างช่างฟรีแลนซ์มาอีกที แบบนี้เรียกว่าเป็นบริษัทหัวคิว กินค่าหัวคิวเป็นทอดๆ เงินถึงมือคนงานจริงๆ แทบจะต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ บางรายให้คนงานอาทิตย์ละ 500 บาท เงินส่วนต่างที่เหลือกลายเป็นเงินกินหมูให้ผู้รับเหมาหมาๆ แบบนี้ ทำให้คนงานไม่ค่อยมีกำลังใจจะทำงานให้เราเท่าที่ควร งานออกมาก็ไม่ดีไม่มีคุณภาพอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่เราก็จ่ายหนัก ผู้รับเหมาหรือบริษัทรับเหมาแบบนี้ ควรหลีกให้ห่างๆ โดยเร็วเหมือนกัน (แต่บางรายก็ดีแสนดี ส่วนดีก็ว่ากันไป แต่ผมเจอแต่พวกโกงกิน ขอให้กรรมมันตามทันไปทั้งชีวิตของมัน)

ประการที่สี่ ผู้รับเหมาที่ดีไม่ควรเป็นญาติ คนรู้จักที่เกี่ยวข้องในทางญาติๆ หรือเพื่อน แม้จะถูกเชียร์ ถูกแรงยุ ก็อย่าเด็ดขาด แล้วคุณจะเจ็บจนจุก เงินที่คุณหามาอย่างยากลำบาก ญาติตัวดีนี่แหละ แดกเยอะกว่าคนไม่รู้จักอีก ขนาดเพื่อนกันบางครั้งก็แดกเยอะจนเลิกคบกันมานักต่อนัก พอเราเจ็บ ถามว่า คนที่เชียร์แต่แรกมาเจ็บด้วยไหม ก็ไม่ เพราะฉะนั้น ไม่ควรเลือกผู้รับเหมาที่มีความเกี่ยวข้องกันดีที่สุด ไอ้ที่บอก ไม่หนี ไม่ไปไหนแน่นอน แต่อย่าลืมนะว่าไอ้พวก “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” มันมีเยอะ ถ้าตัดสินใจเลือกจริงๆ อยากให้กลับไปอ่านข้อแรกๆ อีกหลายๆ รอบ

ประการที่ห้า สัญญาสร้างบ้าน ควรรัดกุมที่สุด หลักๆ คือในตัวสัญญาต้องมีชื่อผู้รับเหมา หรือชื่อบริษัท ระยะเวลาการก่อสร้างทั้งหมดเริ่มต้น สิ้นสุดเมื่อใด ต้องมีระบุให้ชัดเจน และแต่ละงวดงานก็ต้องมีระบุย่อยลงไปอีกว่าต้องทำอะไรบ้างแยกย่อยแตกออกเป็นข้อๆ ให้ละเอียดที่สุด เริ่มต้น สิ้นสุดเมื่อไหร่ เกินเวลามีปรับเท่าไหร่ไปเลย ทำไปแล้วกี่ส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะสามารถเบิกงวดต่อไปได้ หรือต้องตกลงกันว่า งวดแรกเจ้าของบ้านจ่ายไปก่อน แต่ไม่ควรเกิน 20% ของเงินทั้งหมด และงวดต่อไปผู้รับเหมาควรจะทำงานให้แล้วเสร็จกี่เปอร์เซ็นต์ถึงสามารถเบิกเงินได้ ทำไม่เสร็จตามกำหนดโดนปรับจำนวนเท่าไหร่ ถ้าผู้รับเหมารายไหนไม่มีรายละเอียดส่วนนี้ เดาไว้ก่อนว่าเป็นพวกขี้โกงแน่นอน ควรหลีกหนีให้ห่างไกลที่สุด ผมเจอที่ซวยสุดๆ คือไม่ได้ระบุวันเริ่มต้นสิ้นสุดการก่อสร้าง แถมผู้รับเหมาทำงานข้ามงวดไปมา นึกอยากจะเบิกเงินก็ทำงานเริ่มในงวดต่อไปนิดๆ หน่อยๆ พอกล้อมแกล้มว่าได้ทำไปแล้ว แต่งานงวดเดิมกลับยังไม่เสร็จเรียบร้อย ช่วงแรกๆ ไม่มีคนมาตรวจรับ มาดูคุณภาพงาน โดนหลอกไปเยอะเลย หลังๆ เลยเริ่มรู้ตัว เรียกว่า ต้องเสียค่าโง่ถึงจะโชว์ประสบการณ์ได้

ที่โง่สุดๆ เพราะเหตุผลจากข้างบนทั้งหมดที่ไม่รอบคอบ คือ ผมโดนคิดค่าดำเนินการขอติดตั้งไฟฟ้าชั่วคราว ประปาชั่วคราว แต่พอเอาเข้าจริงกลับมาขอจั๊มไฟบ้านเจ้าของบ้าน แถมความโง่ซ้ำซ้อนดันโดนผู้รับเหมาคิดค่าสร้างบ้านพักคนงานกับค่าเช่าที่ดินจากเจ้าของบ้านไปด้วย ที่น่าขำสุดๆ คือ บ้านพักคนงานกับคนงานทั้งหมด ดันมาอยู่ในที่ดินของเจ้าของบ้านซะเองนี่สิ เงิบไหมล่ะ….

ไว้มาต่อกันในตอนหน้า เรื่องเทคนิค กลโกงของผู้รับเหมาหัวหมาๆ ทั้งหลายเกี่ยวกับการสร้างบ้านด้วยเงินสดกันครับ