ก่อนจะเป็นบ้าน ต้องมีห้องนอน

ก่อนผมจะออกแบบบ้านซักหลังให้กับตัวเองและคิดว่ามันจะต้องเป็น บ้านในฝันของผมนั้น ผมจริงจังกับห้องนอนและห้องน้ำมากเป็นพิเศษ เพราะดูเหมือนว่าหากผมมีบ้าน ชีวิตผมครึ่งหนึ่งจะอยู่ในห้องทำงาน ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งจะอยู่ในห้องนอนกับห้องน้ำ ที่เหลืออาจอยู่ในห้องอื่นๆ เพราะฉะนั้น ผมจะให้ความสำคัญกับห้องทั้ง 2 เป็นพิเศษ

วันนี้มาว่ากันด้วยเรื่องของหัวใจของบ้าน นั่นคือ ห้องนอน เพราะก่อนจะออกแบบบ้าน จะต้องทำให้ห้องนอนน่านอน นอนแล้วมีความสุขก่อนเป็นอันดับแรก โดยเริ่มแรกในการออกแบบบ้านของผมนั้น ผมจะเริ่มหา ตำแหน่ง หรือ LOCATION ของห้องนอนก่อน

ตำแหน่งห้องนอน จะต้องอยู่ในตำแหน่งที่มีความเงียบสงบ ห่างจากเสียงรบกวนต่างๆ และต้องเป็นส่วนที่มีอากาศถ่ายเทดีที่สุด ให้วางห้องนอนให้อยู่ในทิศทางลม และมีผนังที่สามารถเปิดรับและระบายลมได้สองด้าน และให้ได้รับแสงแดดตอนเช้าสำหรับคนทำงานกลางวัน เพราะจะทำให้กลางคืนไม่ร้อน นอนหลับสบาย

ขนาดห้องนอนที่เหมาะสม ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของผู้ใช้ห้องนั้นๆ ไม่ลืมที่จะเผื่อพื้นที่วางตู้ โต๊ะต่างๆ ตามกิจกรรมที่ต้องทำ เพราะหากไม่คำนวณดีๆ พอวางเตียงนอนแล้วก็เต็มแทบจะเดินไปไหนไม่ได้ นั่นถือว่าผิดพลาด ซึ่งขนาดของห้องนอนโดยทั่วไปมีตั้งแต่ 3.0×3.0 เมตรถึง 4.5×5.5 เมตร หรืออาจกว้างเป็นกรณีพิเศษ ในบ้านหนึ่งหลัง ควรแบ่งห้องนอนออกเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จะเป็นห้องนอนของเจ้าของบ้าน เพราะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนอื่น บางบ้านอาจมีส่วนที่ใช้สำหรับการแต่งตัวแยกออกไปเรียกว่า walk-incloset ส่วนห้องนอนอื่น (Guest Bedroom) ก็เป็นห้องที่มีขนาดเล็กกว่า อย่างบ้านผมนี้ กำหนดให้เป็นขนาด 4.0×4.5-5.0 เมตร

เฟอร์นิเจอร์ (FURNITURE) สำหรับห้องนอนจะมีเท่าที่จำเป็นคือ

เตียงนอนคู่ขนาดกลาง (QUEEN SIZE) ประมาณ 1.5-1.8×2.0 เมตร **ขนาดใหญ่ (KING SIZE) จะมีขนาดประมาณ 1.8-2.0×2.0 เมตร แต่สำหรับผมแล้ว เลือกขนาดกลางพอ เพื่อปรับให้ห้องเล็กลงด้วยจะทำให้บ้านไม่ดูใหญ่มาก ไม่วางโต๊ะ ตู้อื่นๆ อีกเพราะจะทำเป็น walk-incloset แยกออกไปต่างหาก เพราะไม่จำเป็นต้องมีกิจกรรมมากมายในห้องนอน เมื่อลองคำนวณคร่าวๆ แล้วก็มีเนื้อที่อีกเพียบ

สำหรับการจัดแต่ง (DECOR) ภายในห้องนอนนั้น ตามหลักการออกแบบห้องนอนสำหรับผมแล้ว อย่างที่บอก ไม่มีตู้เสื้อผ้าไม่มีอะไรนอกจากเตียงนอนแตะโต๊ะสำหรับวางของเล็กๆ ข้างเตียงนอน

แต่สำหรับบ้านอื่นที่จำเป็นต้องมีตู้เสื้อผ้า ก็ควรอยู่ใกล้ประตูเข้าออก ใกล้ห้องน้ำและชิดผนังด้านตะวันตก ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ยามบ่ายได้ส่วนหนึ่ง เตียงนอนไม่ควรอยู่ในตำแหน่งที่นอนมองประตูห้องน้ำหรืออยู่หนาห้องน้ำซึ่งเป็นที่ใช้แต่งตัว และไม่ควรหันปลายเท้าไปทางประตูทางเข้า อีกทั้งไม่ควรหันหัวเตียงไปไว้ใต้หน้าต่าง เนื่องจากแสงจะส่องเข้าตาเมื่ออยากนอนตื่นสาย และลมโกรกศีรษะทำให้ไม่สบายได้การเลือกขนาดเตียงที่เหมาะสมกับขนาดห้อง ถ้าห้องขนาดเล็ก 2.5-3.0×3.0 เมตร ควรใช้เตียงขนาด 3.5 ฟุต ถ้าห้องขนาด4.0×4.0-4.5 เมตร ควรใช้เตียง 5ฟุต และถ้าเป็นห้องขนาด 5×4.5-5.0 เมตร ก็สามารถใช้เตียง 6 ฟุตได้อย่างสบาย

โทนสีที่ใช้ตกแต่งห้องสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบของเจ้าของบ้าน การตกแต่งอาจเน้นในส่วนที่เป็นหัวเตียงซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นของห้อง มีส่วนตู้โทรทัศน์และอาจเพิ่มส่วนพื้นที่ทำงานในกรณีที่พื้นที่พอเพียงอาจมีโทนสีห้องนอนอื่นๆ อาจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากความต่างวัยและเพศของผู้อยู่อาศัย ห้องนอนเล็กส่วนใหญ่มักไม่มีพื้นที่แต่งตัว แต่จะใช้ตู้เสื้อผ้า design เข้าชุดกันกับ furniture อื่นๆ

เอาไว้คิดไอเดียใหม่ๆ สำหรับผังห้องนอนแล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่