ห้องนอนในฝัน ของผม

ห้องนอนในฝัน ขอบคุณเป็นอย่างไร สำหรับผมแล้ว หากผมมีบ้านโมเดิร์นที่มีแบบบ้านที่ชอบตามในฝัน และอยู่กับครอบครัวหลายคน ในห้องนอนผมจะพยายามไม่ยัด TV ตู้เย็น และเครื่องอำนวยความสะดวกอื่นๆ เข้าไปเลย

ยกเว้น แอร์ ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน บางทีตู้เสื้อผ้าก็จะไม่มีเลยด้วยซ้ำ แต่จะไปอยู่อีกห้องหนึ่งที่เรียกว่าห้องแต่งตัวแทน ซึ่งน่าจะให้อยู่ใกล้กับห้องน้ำ หรือทำห้องนอนแยกโซนกันไปเลยให้ชัดเจน เพราะอะไร เพราะผมคิดว่าห้องนอนในฝัน ก็คือห้องที่น่าจะสะอาดที่สุด เงียบ แต่ดูน่าอยู่ไม่เว้งว้างเกินไป ห้องนอนที่ดีจะมีแสงเข้าพอประมาณ ไม่สว่างมาก แต่ก็ไม่ถึงกับมืดมาก โปร่งไม่มากแต่ก็ไม่ถึงกับอับทึบ

โต๊ะเครื่องแป้งนี่ไม่ควรอยู่ในห้องนอนเลย หรือควรย้ายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะคอมฯ โต๊ะอ่านหนังสือ โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง คือห้องนอนก็ควรจะมีแค่เตียงนอนและแอร์ เท่านั้น ส่วนเครื่องอำนวยความสะดวกอื่นควรจะไปอยู่ให้มันถูกห้อง เช่น TV ก็ควรไปอยู่ห้องโถงที่ทุกคนจะได้ดู ไม่ใช่แยกมาดูคนเดียว ในบ้านไม่ควรมีอะไรส่วนตัวนอกจากในhttps://landsale.krabi.today/tag/bedroom”>ห้องนอนและห้องน้ำ ตู้เย็นควรไปอยู่ในห้องครัว หนังสือ คอมฯ อุปกรณ์การทำงานก็ไปอยู่ในห้องทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าก็ควรไปอยู่ในห้องแต่งตัว จัดให้เป็นสัดส่วน ไม่วุ่นวายกับห้องนอน แบบนี้

เมื่ออยู่ในห้องนอนในฝัน เราก็จะหลับฝันดี ไม่ต้องกังวลกับเสียง TV ไม่ต้องรู้สึกหิว ไม่ต้องหายใจลำบากเพราะแป้งฝุ่นและฝุ่นอื่นๆ ที่อาจหลุดรอดมาจากห้องแต่งตัว ไม่ต้องไปกลัวผีในตู้เสื้อผ้า

การจัดห้องนอนในฝันตามหลักฮวงจุ้ย

ข้อจำกัดของการจัดห้องนอนนั้น ไม่ยากและไม่มากเกิน หากเราสามารถจัดห้องนอนให้อยู่ในขอบข่ายฮวงจุ้ย เราจะหลับฝันดี ตื่นมารู้สึกสดชื่น มีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดีทั้งวัน สุขภาพเราก็จะดีไปด้วย อย่างแรก เลยคือการวางเตียงนอน ปกติหากสะดวกเราก็จะวางแนบผนังหรือหน้าต่าง จริงๆ ไม่ควรทำ เพราะเวลานอนหรือนั่งอยู่บนเตียง เราจะรู้สึกได้ยินเสียงต่างๆ ได้ชัดเจนเพราะการสะท้อนของผนัง ถ้าใกล้หน้าต่างก็จะได้ยินเสียงลมพัดอยู่ตลอด ทำให้ผู้นอนรู้สึกระแวง เป็นกังวล และจะทำให้นอนหลับได้ไม่สนิท และเตียงนอนที่ดีควรมีหัวเตียงที่แข็งแกร่ง จะทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้น

เตียงควรเป็นแบบเปิดโล่งทั้งสองข้างและใต้เตียงควรปล่อยโล่ง เห็นได้ชัดเจน ที่สำคัญไม่ลืมว่า ห้องนอนไม่ควรมีกระจก กระจกเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในห้องนอนเลยไม่ว่าจะกรณีใดๆ ยกเว้นในโรงแรมนั่นถือเป็นเชิงการค้า แต่การอยู่ถาวร ไม่ควรเด็ดขาด เพราะเชื่อกันว่าจะสะท้อนพลังชีวิตให้ออกไปจากห้อง และเพราะจิตเราจะหลอนไปเองด้วย เมื่อเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วอาจจะทำให้คุณคิดเตลิดเปิดเปิงไปจนนอนไม่หลับ หรือหลับก็หลับไม่ค่อยสบายจนอาจล้มป่วยลงได้ นอกจากนี้ก็ไม่ควรตั้งเตียงให้ตรงกับประตู เพราะจะทำให้คุณรู้สึกไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัว และไม่ค่อยปลอดภัย

จากหลักการนี้เราก็จะได้ห้องนอนที่โล่งและหัวเตียงอยู่ชิดริมห้อง ซ้ายขวาก็โล่ง ขึ้นลงสะดวก หากห้องนอนแคบ ก็อาจวางเตียงนอนใกล้ขอบผนังห้องด้านใดด้านหนึ่งที่สามารถขึ้นลงได้สะดวกทั้งสองด้าน แบบนี้ก็ถือเป็นห้องนอนในฝันแล้ว